วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

The Verb “To Be”

The Verb “To Be”
Verb to be เป็นกริยาช่วย [Auxiliary helping verb] ประเภทหนึ่ง ที่ใช้ในการแสดงสภาพ ใช้เชื่อมประธานกับคำขยายประธานส่วนใหญ่ แล้วมักจะไม่แปลความหมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นแปลหรือไม่แปลความหมายนั้นขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ ค่ะ โดยปกติแล้ว Verb to be นั้นแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ
1. กลุ่มที่ใช้กับเหตุการณ์ปัจจุบัน [Present] ประกอบด้วย is,am,are ให้ความหมายว่า เป็น,อยู่,คือ
2. กลุ่มที่ใช้กับเหตุการณ์ในอดีต [Past] ประกอบด้วย was,were ให้ความหมายเหมือนกันกับ is,am,are

แหล่งที่มา
หลักการใช้ Verb to be มีดังนี้
1.ถ้าเป็นกริยาสำคัญในประโยค มีความหมายว่า เป็น อยู่ คือ
2.ใช้วางข้างหน้า กลุ่มคำ adjective ( คำคุณศัพท์ )
3.ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Continuous ( ประโยคที่มี กริยา ing )
4.ใช้เป็นกริยาช่วยในโครงสร้างของประโยค Passive Voice ( ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ )
หลักการใช้กับประธานในประโยค
1.ถ้าประธานที่เป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 ซึ่งได้แก่ He She It หรือ ชื่อคนคนเดียว สัตว์ตัวเดียว และสิ่งของอันเดียวที่ถูกกล่าวถึง Verb to be ที่ใช้ คือ is เช่น
*He is a teacher.
*She is in the room.
*It is a dog.
2.ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1 ( ผู้พูดคนเดียว ) ซึ่งได้แก่ I Verb to be ที่ใช้ คือ am
*I am a student.
*I am under the table.
3.ประธานเป็นพหูพจน์ทุกบุรุษ ซึ่งได้แก่ We You They หรือ ชื่อคนหลาย สัตว์หลายตัว และสิ่งของหลายอันที่ถูกกล่าวถึง Verb to be ที่ใช้ คือ are เช่น
*We are nurses.
*My father and I are in the room.
*They are policemen.


แหล่งที่มา

การตอบคำถามในคำถาม Yes No Question ที่มี Verb to be
การตอบคำถามในคำถาม Yes No Question ที่มี Verb to be เช่น
- Is she very clever? Yes, she is. / No, she isn’t.
- Are you Thai? Yes, I am. / No, I’m not.
- Is it hot? Yes, it is. / No, it isn’t.
- Am I late? Yes, you are. / No, you aren’t.
แหล่งที่มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น